ทรงเปลื้องสังวาลประทานนางกีสาโคตมีซึ่งสดุดี
พระคุณขณะเสด็จขึ้นสู่ปราสาท

เป็นภาพตอนต่อเนื่องมาจากตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จประพาสพระราช
อุทยาน แต่ตอนนี้เป็นตอนเสด็จกลับเข้าเมืองพร้อมด้วยราชบริพารที่ตาม
เสด็จ สตรีที่ยืนเยี่ยมมองทางสิงหบัญชรหรือหน้าต่างพระตำหนักที่เห็นอยู่
นั้น ปฐมสมโพธิบอกว่าเป็น 'นางขัตติยราชกัญญาองค์หนึ่งแห่งเมืองกบิล
พัสดุ์' ทรงพระนามว่า 'กีสาโคตมี' เกี่ยวข้องกับเจ้าชายสิทธัตถะในทาง
พระญาติวงศ์อย่างไร ไม่ได้บอกไว้

แต่ในอรรถกถาธรรมบทที่พระพุทธโฆษาจารย์ชาวอินเดียรจนาไว้บอกว่า
เธอเป็นธิดาของพระเจ้าอา (หญิง ของพระพุทธเจ้า ซึ่งหมายถึงพระนางมิตา
และพระนางอมิตา ทั้งสองพระนางนี้เป็นพระกนิษฐา หรือน้องสาวของพระ
เจ้าสุทโธทนะ แต่เป็นธิดาของพระเจ้าอาพระองค์ไหนแน่ ท่านก็ไม่ได้บอกไว้)

พระนางกีโคตมี ได้ทรงเห็นเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จกลับจากสรงสนานในสระ
โบกขรณี ในพระราชอุทยานผ่านมา และทรงเห็นเจ้าชายงามบริบูรณ์ด้วย
พระรูปศิริโสภาคย์ ก็ทรงปิติโสมนัส จึงตรัสพระ คาถาชมเจ้าชายสิทธัตถะ
บทหนึ่ง พระคาถา คือคำกลอนหรือโศลกที่กวีแต่งร้อยกรองความเดิมเป็น
ภาษาบาลีว่า

"นิพพุตา นูน สา มาตา
นิพพุโต นูน โส ปิตา
นิพพุตา นูน สา นารี
ยัสสายัง อีทิโส ปติ"

ถอดเป็นร้อยแก้ในภาษาไทยว่า "ผู้ใดได้เป็นพระราชมารดาและพระราชบิดา
ของเจ้าชายสิทธัตถะผู้นั้นจะมีความสุขดับทุกข์เข็ญ สตรีใดได้เป็นพระชายา
สตรีนั้น ก็จะมีความสุขดับทุกข์เข็ญ"

เจ้าชายสิทธัตถะทรงได้ยินก็ชอบพระทัย ที่ทรงชอบที่สุดคือคำว่า 'ดับ' ซึ่ง
พระองค์ทรงหมายพระทัยถึง 'นิพพุต' หรือนิพพาน จึงทรงเปลื้อง 'แก้ว
มุกดาหาร' เครื่องประดับพระศอราคาแสนกหาปณะ มอบให้ราชบุรุษนำไป
มอบให้แก่นางกีสาโคตมี พระนางสำคัญหมายในพระทัยว่า เจ้าชายทรงมี
พระทัยปฏิพัทธ์เสน่หาในพระนางก็ทรงเกิดโสมนัสยินดีเป็นอันมาก

Copyright © 2002 Mahidol University All rights reserved.
Mahidol University Computing Center, Rama VI Road, Rajathewi, Bangkok 10400, THAILAND Tel. (662) 354-4333