เสด็จไปเยี่ยมพระนางพิมพา ซึ่งกำลังบรรทมหลับสนิท
เป็นมินิตอำลาผนวช
พอสิ้นพระดำรัสถามของเจ้าชายสิทธัตถะก็มีเสียงทูลขานรับ เจ้าของเสียง |
ระบุชื่อ ตัวเองว่า 'ฉันนะ' นายฉันนะ คือ มหาดเล็กคนสนิทของเจ้าชายสิท |
ธัตถะและเป็น สหชาติคือเกิดวันเดียวกับเจ้าชายด้วย |
ถ้าจะอุปมาเรื่องราวของพระพุทธเจ้าเป็นดุจบทละคร นายฉันนะก็เป็นตัว |
ละครที่สำคัญคนหนึ่งในเรื่อง ความสำคัญนั้นคือ เป็นผู้มีส่วนร่วมในการ |
เสด็จออกบวชของพระพุทธเจ้า อีกอย่างหนึ่งที่รู้จักกันดี คือ เมื่อภายหลังเจ้า |
ชายได้เสด็จออกบวชและได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว นายฉันนะได้โดย |
เสด็จออกบวชด้วย พระฉันนะกลายเป็นพระหัวแข็ง ใครว่ากล่าวไม่ได้นอก |
จากพระพุทธเจ้าองค์เดียวเพราะพระฉันนะถือตัวว่าเป็นข้าเก่า เขาใช้สรรพ |
นามเรียกเจ้าชายสิทธัตถะหรือพระพุทธเจ้าติดปากมาจนกระทั่งบวชเป็น |
พระอยู่คำเดียวว่า 'พระลูกเจ้า' |
ในตอนที่กล่าวนี้ นายฉันนะนอนอยู่ที่ภายนอกห้องบรรทมของเจ้าชาย |
ศีรษะหนุนกับธรณีพระทวาร เมื่อเจ้าชายรับสั่งให้ไปเตรียมผูกม้า นายฉันนะ |
ก็รับพระบัญชารีบลงไปที่โรงม้า |
ส่วนเจ้าชายผู้ทรงตัดสินพระทัยแน่วแน่แล้วว่าจะเสด็จออกบวช เสด็จไปยัง |
ห้องพระบรรทมของพระนางพิมพายโสธราผู้ชายาก่อน เมื่อเสด็จไปถึง ทรง |
เผยบานพระทวารออก ทรงเห็นพระชายากำลังหลับสนิท พระนางทอดพระ |
กรไว้เหนือเศียรราหุล โอรสผู้เพิ่งประสูติ พระองค์ทรงเกิดความเสน่หาอาลัย |
ในพระชายาและพระโอรสที่เพิ่งได้ทอดพระเนตรเห็นเป็นครั้งแรกอย่างหนัก |
ทรงหมายพระทัยว่า "จะทรงยกพระหัตถ์นางผู้ชนนี จะอุ้มเอาองค์โอรส ..." |
ก็ทรงเกรงพระนางจะตื่นบรรทม และจะเป็นอุปสรรคแก่การเสด็จออกบวช |
จึงข่มพระทัยเสีย ได้ว่าอย่าเลย เมื่อได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า "จะกลับมา |
ทัศนาการพระพักตร์พระลูกแก้วเมื่อภายหลัง" |
แล้วเสด็จออกจากที่นั้น ลงจากปราสาทไปยังที่ที่นายฉันนะเตรียมผูกม้าไว้ |
เรียบร้อยแล้ว |
Copyright © 2002 Mahidol
University All rights reserved. |