เสด็จจาริกผ่านกรุงราชคฤห์
มหาชนเห็นแล้วก็โจษจันกันทั่วเมือง

เมื่อนายฉันนะ มหาดเล็กผู้ซื่อสัตย์กลับคืนไปแจ้งข่าวทางเมืองกบิลพัสดุ์
แล้ว พระมหาบุรุษ หรือก่อนแต่นี้คือเจ้าชายสิทธัตถะ เสด็จจากหาดทราย
ชายฝั้งแม่น้ำอโนมาไปยังตำบลที่มีป่ามะม่วงมากแห่งหนึ่ง ที่เรียกโดยชื่อว่า
'อนุปิยอัมพวัน' ตำบลนี้อยู่ในเขตแขวงมัลลชนบท ประทับอยู่ที่นี่หนึ่งสัดาห์
ในวันที่ ๘ จึงเสด็จจาริกเข้าแคว้นมคธไปโดยลำดับจนถึงกรุงราชคฤห์ ซึ่ง
เป็นเมืองหลวงของแคว้นนี้ในสมัยนั้น

แคว้นมคธเป็นแคว้นใหญ่ มั่งคั่ง มากด้วยพลเมืองและมีอำนาจมากเท่า
เทียมกับอีกแคว้นหนึ่งในสมัยเดียวกันนี้คือ แคว้นโกศล ซึ่งมีกรุงสาวัตถีเป็น
เมืองหลวง

กษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ของกรุงราชคฤห์แห่งแคว้นมคธในสมัยที่กล่าวนี้ทรงพระ
นามว่าพระเจ้าพิมพิสารทรงมีพระชนมายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระมหาบุรุษ
ขณะที่กล่าวนี้จึงทรงเป็นกษัตริย์หนุ่ม

เวลาเช้า พระมหาบุรุษเสด็จเข้าเมือง ชาวเมืองเกิดอาการที่ปฐมสมโพธิราย
งานไว้ว่า "ตื่นเอิกเกริกโกลาหลทั่วทั้งพระนคร" เพราะได้เห็นนักบวชที่ทรง
รูปสิริลักษณะเลิศบุรุษ จะว่าเป็นเทวดา หรือ นาค สุบรรณ (ครุฑ) คนธรรพ์
ทานพ (อสูรจำพวกหนึ่งในนิยาย ประการใดก็มิได้รู้) เข้ามาสู่พระนคร เที่ยว
โคจรบิณฑบาตประหลาดนัก ต่างก็โจษจันกันทั่วเมือง

เจ้าชายสิทธัตถะ หรือขณะนี้คือพระมหาบุรุษ และต่อมาคือพระพุทธเจ้า
ทรงเกิด ในขัตติยกุลคือสกุลกษัตริย์ ทรงเป็นอุภโตสุชาต คือ ทรงมีพระชาติ
กำเนิดเป็นกษัตริย์บริสุทธิ์ทั้งฝ่ายพระบิดาและฝ่ายพระมารดา ทรงมีผิว
พรรณที่ภาษาบาลี เรียกว่า 'กาญจนวัณโณ' แปลตามตัวว่าผิวทอง ความ
หมายก็คือผิวเหลืองขาว ทรงมีพระรูปโฉมสง่างาม ถึงแม้จะทรงปลงพระ
เกศา และพระมัสสุ และทรงนุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์อย่างนักบวชผู้สละทิ้ง
ความงามทางฆราวาสวิสัยแล้วก็ตามแต่พระอาการกิริยาเวลาเสด็จดำเนินก็
ยังคงลีลาของกษัตริย์ชัดเจน คือสง่างามผิดแผกสามัญชน

เพราะเหตุนี้ เมื่อชาวเมืองราชคฤห์ได้เห็น จึงแตกตื่นกัน จนความทราบไปถึง
พระเจ้าพิมพิสาร ผู้เป็นพระราชาธิบดีแห่งกรุงราชคฤห์

Copyright © 2002 Mahidol University All rights reserved.
Mahidol University Computing Center, Rama VI Road, Rajathewi, Bangkok 10400, THAILAND Tel. (662) 354-4333