พระเจ้าพิมพิสารเลื่อมใส
ทรงหลั่งน้ำถวายวัดเวฬุวันเป็นปฐมสังฆราม
เมื่อพระเจ้าพิมพิสาร ราชาแห่งแคว้นมคธ ได้ทรงฟังธรรมพระพุทธเจ้าจบลง |
และได้ทรงบรรลุโสดาแล้ว ก็เสด็จลุกขึ้นอภิวาทแทบพระบาทพระพุทธเจ้า |
ทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสาวกหนึ่งพันรูปเสด็จไปเสวยที่พระ |
ราชนิเวศน์ในวันรุ่งขึ้น พระพุทธเจ้าทรงรับคำทูลอาราธนานั้นด้วยพระ |
อาการดุษณี |
นั่นเป็นธรรมเนียมการรับนิมนต์ของพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์สมัยนั้ ถ้า |
ดุษณีหรือนิ่ง แปลว่า รับได้ ถ้ารับไม่ได้ เช่น มีคนทูลอาราธนาว่า ขอให้เสด็จ |
ไปรับบาตรที่บ้านของตนแห่งเดียวตลอดพรรษานี้ พระพุทธเจ้าจะตรัสว่า |
"คนในโลกนี้ใคร ๆ ก็อยากทำบุญกับเราทั้งนั้น จะผูกขาดไม่ได้หรอก" อย่างนี้ |
แสดงว่ารับนิมนต์ไม่ได้ หรือไม่รับ |
รุ่งขึ้น พระพุทธเจ้าเสด็จจากสวนตาลหนุ่ม เข้าไปในพระราชนิเวศน์ของพระ |
เจ้าพิมพิสาร เจ้าพนักงานที่ได้ตระเตรียมอาหารบิณฑบาตไว้พร้อมแล้ว พระ |
เจ้าพิมพิสารได้ทรงถวายอาหารแก่พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวก |
เมื่อพระพุทธเจ้าเสวยแล้ว และพระสงฆ์ทั้งนั้นก็ฉันอิ่มกันทั่วแล้ว พระเจ้าพิม |
พิสารจึงเสด็จเข้าไปใกล้พระพุทธเจ้า ประทับนั่ง ณ ที่ควรข้างหนึ่ง แล้วทรงมี |
พระราชดำรัสทูลพระพุทธเจ้าว่า ที่สวนตาลหนุ่มเป็นสถานที่อยู่ห่างไกล |
เมืองและทุรกันดารมาก ไม่สะดวกแก่การไปมา |
แล้วมีพระราชดำรัสว่าพระราชอุทยานสวนไม้ไผ่ หรือเวฬุวันของพระองค์ตั้ง |
อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเมืองนัก ไปมาสะดวก กลางวันไม่พลุกพล่านด้วยผู้ |
คน กลางคืนสงบสงัด สมควรเป็นที่ประทับอยู่ของพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ |
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงรับด้วยพระอาการดุษณี พระเจ้าพิมพิสารจึงทรงหลั่งน้ำ |
จากพระเต้าลงบนพระหัตถ์พระพุทธเจ้า ถวายเวฬุวนารามให้เป็นวันพระ |
พุทธศาสนาแห่งแรกในโลก |
ปฐมสมโพธ์ว่า "กาลเมื่อพระสัพพัญญูทรงรับพระเวฬุวันเป็นอาราม ครั้งนั้น |
อันว่า มหาปฐพีดลก็วิกลกัมปนาท ดุจรู้ประสาทสาธุการว่า มูลที่ตั้งพระพุทธ |
ศาสนา หยั่งลงในพื้นพสุธา กาลบัดนี้ |
Copyright © 2002 Mahidol
University All rights reserved. |