เสด็จไปโปรดพระญาติที่กรุงกบิลพัสดุ์
พระญาติผู้ใหญ่ถือว่าสูงอายุไม่ถวายบังคม
ตลอดเวลา ๖ ปีกว่าคือ นับตั้งแต่เสด็จออกบวช ตรัสรู้ และประกาศพระ |
ศาสนาในแคว้นมคธจนมีพระสาวกและคนนับถือมาก พระพุทธเจ้ายังมิได้ |
เสด็จกลับกรุงกบิลพัสดุ์ เมืองประสูติของพระองค์เลย ภาพที่เห็นนี้จึงเป็น |
ตอนพระพุทธเจ้าเสด็จกลับกรุงกบิลพัสดุ์เป็นครั้งแรก เพื่อโปรดพระประยูร |
ญาติตามคำทูลอาราธนาของพระเจ้าสุทโธทนะพุทธบิดา |
ด้วยพระทัยปรารถนาที่จะได้เห็นพระพุทธเจ้าผู้ทรงอยู่ในฐานะหนึ่ง คือ พระ |
ราชโอรส เมื่อทรงทราบว่าขณะนั้น พระพุทธเจ้าเสด็จประทับ เพื่อประกาศ |
พระศาสนาอยู่ในแคว้นมคธ พระเจ้าสุทโธทนะจึงส่งคณะทูตไปทูลอาราธนา |
คณะทูตแต่ละคณะที่พระเจ้าสุทโธทนะส่งไปเพื่อทูลอาราธนาพระพุทธเจ้า มี |
หัวหน้าและบริวารซึ่งปฐมสมโพธิบอกว่าจำนวนหนึ่งพันคน รวมทั้งหมด ๑๐ |
คณะด้วยกัน ครั้งที่ ๑ ถึง ๙ ตามลำดับ ได้ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าได้ฟังธรรมแล้ว |
สำเร็จอรหันต์ ยังมิได้กลับมาทูลรายงานให้พระเจ้าสุทโธทนะได้ทราบ พระ |
เจ้าสุทโธทนะจึงทรงส่งคณะอำมาตย์ เป็นคณะทูตที่ ๑๐ ไปอีก คณะทูตที่ |
๑๐ นี้มีกาฬุทายีเป็นหัวหน้า ซึ่งเป็นผู้ที่คุ้นเคยและเป็นสหชาติ คือ เกิดวัน |
เดียวกับพระพุทธเจ้า ก่อนออกเดินทางไปทูลอาราธนาพระพุทธเจ้า กาฬุทายี |
ทูลลาบวช เมื่อบวชแล้วจะทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าให้เสด็จมายังกรุงกบิล |
พัสดุ์ให้จงได้ พระเจ้าสุทธโธทนะทรงอนุมัติ |
ภายหลังเมื่อกาฬุทายีไปถึงสำนักพระพุทธเจ้าไปฟังธรรมจนสำเร็จอรหันต์ |
และได้ขอบวชเป็นพระสาวกพร้อมทั้งบริวารที่ติดตามไปแล้ว ได้ทูลอาราธนา |
พระพุทธเจ้าเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ ขณะนั้นเป็นหน้าแล้ง ย่างเข้าหน้าฝน |
พระพุทธเจ้าทรงรับคำทูลอาราธนาแล้ว พร้อมด้วยพระสาวก ที่ตำนานปฐม |
สมโพธิบอกว่าจำนวน ๒ หมื่นรูป เสด็จออกเดินทางเป็นเวลาสองเดือน จึง |
ถึงกรุงกบิลพัสดุ์แล้ว เสด็จเข้าประทับในอารามของเจ้าศากยะผู้หนึ่ง ซึ่งชื่อ |
ว่า 'นิโครธ' ซึ่งพวกเจ้าศากยะพระญาติจัดถวายให้เป็นที่ประทับ อารามในที่ |
นี้ไม่ใช่วัด แต่เป็นสวน เป็นอุทยานอยู่นอกเมือง พวกพระประยูรญาติรวมทั้ง |
พระเจ้าสุทโธทนะด้วย ได้พากันมารับเสด็จและเฝ้าพระพุทธเจ้าที่อารามแห่ง |
นี้ |
Copyright © 2002 Mahidol
University All rights reserved. |