พระนันทะรับบาตรส่งเสด็จ นางคู่วิวาห์ร้องสั่งให้รีบกลับ
พอถึงวัดกลับชวนให้ผนวชM
ในวันที่ ๕ นับแต่วันที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาถึงเมืองกบิลพัสดุ์เป็นครั้งแรก มี |
พิธีวิวาห์มงคลระหว่างเจ้าชายศากยะที่ชื่อว่า 'นันทะ' กับเจ้าหญิงที่มีชื่อว่า |
'ชนบทกัลยาณี' |
นันทะเป็นพระอนุชาหรือน้องชายของพระพุทธเจ้า แต่เป็นพระอนุชาต่าง |
มารดา กล่าวคือภายหลังพระมารดาของพระพุทธเจ้า คือ พระนางสิริมหา |
มายาสิ้นพระชนม์ แต่เมื่อพระพุทธเจ้าประสูติได้ไม่กี่วันแล้ว พระเจ้าสุทโธทนะ |
ทรงได้พระนางปชาบดีโคตมี ผู้เป็นน้องสาวของพระนางสิริมหามายาเป็น |
ชายา นันทะจึงเป็นพระโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะที่เกิดจากพระนางปชา |
บดีโคตมี ผู้เป็นพระน้านางของพระพุทธเจ้า |
เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จออกบวชแล้ว รัชทายาทของพระเจ้าสุทโธทนะจึงตก |
อยู่แก่นันทะ พระเจ้าสุทโธทนะทรงหมายพระทัยว่าเมื่อนันทะอภิเษกสมรส |
แล้ว จะได้ครองราชย์สืบต่อจากพระองค์ |
ในงานวิวาห์มงคลนั้น พระพุทธเจ้าจึงได้เสด็จมาตามคำทูลอาราธนาของ |
พระพุทธบิดา เมื่อทรงฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว พระพุทธเจ้าเสด็จกลับ ได้ทรง |
มอบบาตรของพระองค์ให้เจ้าชายนันทะทรงถือตามส่งเสด็จ นันทะทรงดำริ |
ว่า เมื่อถึงประตูพระราชนิเวศน์ พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นพระเชษฐาจนไปถึง |
พระอารามที่ประทับ พระพุทธเจ้าจึงหันมาตรัสกับพระอนุชาว่า "บวชไหม" |
นันทะจะปฏิเสธก็เกรงใจพี่ชาย นี่ว่าตามภาษาสามัญ จึงทูลตอบพระพุทธ |
เจ้าว่า "บวชพระเจ้าข้า" |
นันทะไม่ได้ยอมบวชด้วยน้ำใสใจจริง เพราะกำลังจะแต่งงาน ทั้งตอนที่จะ |
ออกจากพระราชนิเวศน์นำบาตรมาส่งพระพุทธเจ้า นางชนบทกัลยาณีผู้เป็น |
เจ้าหญิงคู่อภิเษกสมรส ยังร้องเรียกสั่งตามมาว่า "เจ้าพี่ไปแล้วให้รีบเสด็จ |
กลับ" แต่ที่ตอบเช่นนั้น ก็เพราะความเกรงใจพระพุทธเจ้าดังกล่าวแล้ว |
Copyright © 2002 Mahidol
University All rights reserved. |