พระเทวทัตสำแดงฤทธิ์ให้อชาตศัตรูราชกุมารเลื่อมใส
เพื่อให้รับเป็นโยมอุปัฎฐาก

การเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ของพระพุทธเจ้าครั้งแรก ดังได้บรรยายมาแล้วนั้น
เป็นเหตุให้เจ้าชายศากยะเสด็จออกบวชกันมาก ในจำนวนนั้น ที่มีชื่อเสียง
และมีคนรู้จักกันดีจนถึงทุกวันนี้คือ เจ้าชายอานนท์ หรือพระอานนท์ในเวลา
ต่อมา นายภูษามาลาชื่ออุบาลี หรือพระอุบาลี และเจ้าชายเทวทัต

เทวทัตเป็นพระเชษฐาหรือพี่ชายของพระนางพิมพายโสธรา ว่าอย่างสามัญ
เทวทัต ก็คือพี่เมียของเจ้าชายสิทธัตถะ หรือพระพุทธเจ้าในเวลาต่อมา ทุก
คนที่ออกบวชพร้อมกันกับเทวทัต ต่างได้บรรลุมรรคผลในเวลาต่อมาทั้งนั้น
แต่เทวทัตได้สำเร็จเพียงฌานขั้นโลกีย์ ฌานขั้นนี้ทำให้ผู้ได้สำเร็จแสดงอิทธิ
ฤทธิ์ได้เหาะก็ได้

ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้ากับพระสงฆ์จำนวนมากรวมทั้งพระเทวทัตด้วยเสด็จไป
ถึงกรุงโกสัมพี ชาวเมืองได้พากันออกมารับเสด็จ และนำของมาถวายเป็นอัน
มาก ถวายของแด่พระพุทธเจ้าแล้วก็ถวายพระสงฆ์ แต่ละคนเที่ยวถามไถ่กัน
ว่า "พระสารีบุตรของข้าพเจ้าอยู่ที่ไหน พระโมคคัลานะของข้าพเจ้าอยู่ที่ไหน"
ฯลฯ เมื่อทราบแล้วก็นำของไปถวาย แต่ไม่มีใครเลยสักคนที่จะเอ่ยชื่อของ
พระเทวทัตว่า "พระเทวทัตของข้าพเจ้าอยู่ที่ไหน"

นั่นคือความไม่พอใจของพระเทวทัตที่เป็นสาเหตุให้พระเทวทัตก่อกรรม หรือ
กระทำการรุนแรงในเวลาต่อมา

พระเทวทัตเข้าฌานโลกีย์ เนรมิตเป็นกุมารหนุ่มน้อยใช้งูมีพิษร้าย ๗ ตัวพัน
เป็นสังวาลตามตัวตัวหนึ่งพันหัวต่างผ้าโพก อีกสี่ตัวพันข้อมือข้อเท้า อีกตัว
หนึ่งพันคอ และอีกตัวหนึ่งทำเป็นสังวาลเฉวียงบ่า เหาะเข้าไปในวัง ลงนั่ง
บนพระเพลาของอชาตศัตรูผู้เป็นมกุฏราชกุมาร และพระราชโอรสของพระเจ้า
พิมพิสาร ราชาแห่งแคว้นมคธ เทวทัตแนะนำให้อชาตศัตรูปลงพระชนม์พระ
ราชบิดา แล้วเสด็จขึ้นครองราชย์เสีย ส่วนตัวเองจะปลงพระชนม์พระพุทธ
เจ้า แล้วจะตั้งตัวเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ประกาศศาสนาใหม่

เวลาไปเฝ้าเจ้าชายอชาตศัตรู พระเวทัตเหาะไป แต่ขากลับพระเทวทัตเหาะ
ไม่ไหว ต้องเดินกลับ เพราะใจอกุศลเกิดขึ้น ฌานโลกีย์เลยเสื่อมตั้งแต่นั้น
เป็นต้นมา

Copyright © 2002 Mahidol University All rights reserved.
Mahidol University Computing Center, Rama VI Road, Rajathewi, Bangkok 10400, THAILAND Tel. (662) 354-4333