เสด็จไปกรุงกุสินารา ทรงกระหายน้ำ
โปรดให้พระอานนท์ไปตักน้ำมาถวาย
ระหว่างทางเสด็จไปเมืองกุสินารา ภายหลังทรงฉันสูกรมัททวะของนายจุนทะ |
แล้ว พระพุทธเจ้าทรงพระประชวรด้วยพระโรคปักขันธิกาพาธอย่างจวน |
เจียนจะเสด็จนิพพาน ณ ที่นั้นเสียก่อนกำหนด แต่ทรงระงับอาพาธนั้นเสีย |
ได้ด้วยขันติบารมี คือ ความอดกลั้น |
ปักขันธิกาพาธเป็นพระโรคอย่างหนึ่งซึ่งเกิดประจำพระองค์พระพุทธเจ้า คือ |
ทรงพระบังคนถ่ายออกมาเป็นโลหิต มีผู้สันนิษฐานกันว่าคงได้แก่ ริดสีดวง |
ลำไส้ |
เพราะเหตุที่ประชวรพระโรคดังกล่าว พระพุทธเจ้าจึงทรงลำบากพระกาย |
มาก แต่ทรงมีพระสติสัมปชัญญะ ไม่ทรงทุรนทุราย |
เสด็จถึงระหว่างทางแห่งหนึ่ง ซึ่งมีแม่น้ำเล็กๆ มีน้ำไหล พระพุทธเจ้าแวะลง |
ข้างทาง เข้าประทับใต้ร่มพฤกษาแห่งหนึ่ง ตรัสบอกพระอานนท์ว่าให้พับผ้า |
สังฆาฏิเป็น ๔ ชั้นแล้วปูลาดถวาย เสด็จนั่งพักผ่อน แล้วตรัสให้พระอานนท์ |
นำบาตรไปตักน้ำในแม่น้ำ |
"เราจักดื่มระงับความกระหายให้สงบ" พระพุทธเจ้าทรงตรัสบอกพระอานนท์ |
พระอานนท์กราบทูลว่าแม่น้ำนี้ตื้นเขิน เกวียนประมาณ ๕๐๐ เล่มของพวก |
พ่อค้าเกวียนเพิ่งข้ามแม่น้ำผ่านไปเมื่อสักครู่นี้ เท้าโคล้อเกวียนเหยีบย่ำทำ |
ให้น้ำในแม่น้ำขุ่น แล้วกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า "อีกไม่ไกลแต่นี้ มีแม่น้ำสาย |
หนึ่งชื่อกุกกุฎนที มีน้ำใส จืดสนิท เย็น มีท่าน้ำสำหรับลงเป็นที่รื่นรมย์ ขอ |
เชิญเสด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ไปที่แม่น้ำนั้นเถิด พระเจ้าข้า" |
พระพุทธเจ้าตรัสปฏิเสธคำทูลทัดท่านพระอานนท์ถึง ๓ ครั้ง พระอานนท์จึง |
อุ้มบาตรเดินลงไปตักน้ำในแม่น้ำ ครั้นเห็นน้ำ พระอานนท์ก็อัศจรรย์ใจนัก |
หนา พลางรำพึงว่า |
"ความที่พระตถาคตพุทธเจ้าและอานุภาพใหญ่หลวงเช่นนี้เป็นที่น่าอัศจรรย์ |
มาก แม่น้ำนี้ขุ่นนัก เมื่อเราเข้าไปใกล้เพื่อจะตัก น้ำกลับใสไม่ขุ่นมัว" |
ครั้นแล้วพระอานนท์ก็นำบาตรตักน้ำนั้นไปถวายพระพุทธเจ้า |
Copyright © 2002 Mahidol
University All rights reserved. |