พระเจ้าพิมพิสารเสด็จไปเฝ้า
ทูลขอปกิญาณว่าถ้าตรัสรู้แล้วขอให้มาโปรดก่อน
พระเจ้าพิมพิสารได้ทราบความที่ชาวเมืองต่างโจษจันกันถึงเรื่องนักบวช |
หนุ่มผู้ทรงความสง่างามผิดจากนักบวชอื่น ๆ เข้ามาในเมือง จึงทรงสั่งเจ้า |
พนักงานไปสืบความดู หนังสือปฐมสมโพธิเรียบเรียบพระดำรัสสั่งของพระ |
เจ้าพิมพิสารตอนนี้ไว้ว่า |
"ท่านจงสะกดตามบทจรไปดู ให้รู้ตระหนักแน่ แม้ว่าเป็นเทพยดาก็จะเหาะไป |
ในอากาศ ผิวะเป็นพญานาคก็ชำแรกปฐพีไปเป็นแท้ แม้ว่าเป็นมนุษย์ ก็จะ |
ไปนั่งบริโภคภัตตาหารโดยควรประมาณแก่ตนได้ จงไปพิจารณาดูให้รู้เหตุ |
ประจักษ์" |
ฝ่ายพระมหาบุรุษเมื่อทรงรับอาหารบิณฑบาตพอควรจากชาวเมืองแล้ว ก็ |
เสด็จออกจากเมืองไปที่เงื้อมภูเขานอกเมืองแห่งหนึ่ง แล้วทรงตั้งสติ |
พิจารณาปรารภที่จะเสวยอาหารที่ทรงได้มาจากการเสด็จบิณฑบาต อาหาร |
ที่ว่านี้เป็นจำพวกที่เรียกว่า 'มิสกภัตร' คือ อาหารที่คละระคนปนกันทุกชนิด |
ทั้งดีและเลว ทั้งน้ำและแห้ง ทั้งคาวและหวาน |
พระมหาบุรุษทรงเห็นแล้วทรงเกิดพระอาการอย่างหนึ่ง ซึ่งปฐมสมโพธิ |
พรรณนาไว้ว่า "ปานประหนี่งลำไส้ใหญ่จะกลับออกทางพระโอษฐ์ เหตุพระ |
องค์เคยเสวยประณีตโภชนาหาร ประดุจทิพย์สุธาโภชน์..." แต่ทรงข่มพระ |
ทัยด้วยคุณธรรมของนักบวชเสียได้ จึงเสวยอาหารนั้นอย่างปกติ |
พระเจ้าพิมพิสารกับพระมหาบุรุษทรงเป็น 'อทิฏฐสหาย' กัน แปลว่า ทรง |
เป็นพระสหายที่เคยแต่ได้ยินพระนามกันมาก่อน แต่ไม่เคยเห็นกันและกัน |
เลย เมื่อทรงทราบเรื่องจากเจ้าพนักงานกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว พระเจ้า |
พิมพิสรจึงเสด็จไปเฝ้าพระมหาบุรุษ ทรงทราบว่าเป็นเจ้าชายจากศากย |
สกุล จึงตรัสเชิญพระมหาบุรุษให้เสด็จอยู่ครองเมืองด้วยกัน พระมหาบุรุษ |
ทรงปฏิเสธและทรงแจ้งถึงความแน่วแน่ในพระทัยที่จะแสวงหาความตรัสรู้ |
พระเจ้าพิมพิสารจึงตรัสขอปฏิญาณว่า ถ้าได้ตรัสรู้แล้วขอให้เสด็จมาโปรด |
พระมหาบุรุษทรงรับปฏิญาณนั้น |
Copyright © 2002 Mahidol
University All rights reserved. |