จุติมาถือกำเนิดในตระกูลกษัตริย์ศากยะ
ณ กรุงกบิลพัสดุ์
ภาพนี้เป็นภาพตอนที่พระโพธิสัตวเจ้า ซึ่งต่อมาคือเจ้าชายสิทธัตถะ หรือพระ |
พุทธเจ้ากำลังเสด็จจากสวรรค์ชั้นดุสิต เพื่อเสด็จเข้าสู่พระครรภ์พระมารดา |
วันที่เสด็จลงบังเกิดนั้น ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ซึ่งเป็นเวลาที่พระเจ้า |
สุทโธทนะ พระบิดา กับพระนางสิริมหามายา พระมารดาได้อภิเษกสมรสไม่ |
นาน |
คืนวันเดียวกันนั้น พระนางสิริมหามายากำลังบรรทมหลับสนิทในพระแท่นที่ |
บรรทมแล้ว ทรงสุบินนิมิตว่าพระนางไปอยู่ในป่าหิมพานต์ ได้มีช้างเผือก |
เชือกหนึ่งลงมาจากยอดเขาสูงเข้ามาหาพระนาง ปฐมสมโพธิพรรณนาเหตุ |
การณ์ตอนนี้ไว้ว่า |
..."มีเศวตหัตถีช้างหนึ่ง...ชูงวงอันจับบุณฑริกปทุมชาติสีขาวเพิ่งบานใหม่ มี |
เสาวคนธ์หอมฟุ้งตรลบแล้วร้องโกญจนาทเข้ามาในกนกวิมาน แล้วกระทำ |
ประทักษิณพระองค์อันบรรทมถ้วนสามรอบแล้วเหมือนดุจเข้าไปในอุทร |
ประเทศ ฝ่ายทักษิณปรัศว์แห่งพระราชเทวี..." |
ภายหลังโหราจารย์ประจำราชสำนักทำนายว่าเป็นสุบินนิมิตรที่ดี จะมีพระราช |
โอรสผู้ประเสริฐอุบัติบังเกิด และเมื่อพระมารดาทรงครรภ์แล้ว ปฐมสมโพธิได้ |
พรรณนาตอนที่พระโพธิสัตว์เสด็จอยู่ในพระครรภ์พระมารดาว่า |
"...เหมือนดุจด้ายเหลือง อันร้อยเข้าไปในแก้วมณีอันผ่องใส เมื่อปรารถนาจะ |
ทอดพระเนตรในขณะใด ก็เห็นพระโอรสนั่งเป็นบัลลังก์สมาธิ (นั่งขัดสมาธิ) |
ผันพระพักตร์มาข้างพื้นพระอุทรแห่งพระมารดา ดุจสุวรรณปฏิมาอันสถิตอยู่ |
บนฝักอ่อนในห้องแห่งกลีบปทุมชาติ แต่พระโพธิสัตว์มิได้เห็นองค์ชนนี..." |
วันที่พระโพธิสัตว์เจ้าเสด็จลงสู่พระครรภ์นั้น กวีผู้แต่งเรื่องเฉลิมพระเกียรติได้ |
พรรณนาว่า มีเหตุมหัศจรรย์เกิดขึ้นเหมือนกันตอนประสูติ ตรัสรู้ และตรัสปฐม |
เทศนา จะต่างกันบ้างก็แต่ในรายละเอียดเท่านั้น เช่นว่า กลองทิพย์บันลือลั่น |
ทั่วท้องเวหา คนตาบอดกลับมองเห็น คนหูหนวกกลับได้ยิน |
ตอนนั้น ถ้าจะถ่ายทอดพระพุทธเจ้าออกจากวรรคดี มาเป็นพระพุทธเจ้าใน |
พุทธประวัติก็ว่ากลองทิพย์บันลือลั่นนั้น คือ 'นิมิต' หมายถึง พระเกียรติคุณ |
ของพระพุทธเจ้าที่จะแผ่ไปทั่วโลก คนตาบอด หูหนวก คือ คนที่มีกิเลส ได้สดับ |
รสธรรมแล้วจะหายตาบอด หูหนวก หรือมีปัญญารู้แจ้งมองเห็นทางพ้นทุกข์ |
นั้นเอง |
Copyright © 2002 Mahidol
University All rights reserved. |