กลับมาประทับโคนต้นไทร ท้อพระทัยในอันโปรดสัตว์
สหัมบดีพรหม ต้องทูลวิงวอน
ประทับอยู่ภายใต้ต้นราชายตนะหรือไม้เกดครบ ๗ วันแล้ว พระพุทธเจ้า |
เสด็จแปรสถานที่ประทับกลับไปประทับอยู่ภายใต้ต้นอชปาลนิโครธหรือต้น |
ไทร ซึ่งเคยเสด็จไปประทับหนหนึ่งมาแล้วครั้นนี้นับเป็นสัปดาห์ที่ ๕ |
ระหว่างที่ประทับอยู่ ณ ที่นี่ พระพุทธเจ้าทรงพิจารณาถึงธรรมที่พระองค์ได้ |
ตรัสรู้มา ทรงเห็นว่า เป็นธรรมที่มีความหมายสุขุมละเอียด ก็ทรงบังเกิด |
ความท้อพระทัยว่า จะมีใครสักกี่คนที่จะฟังธรรมของพระองค์รู้เรื่อง พระทัย |
หนึ่งจึงเกิดความมักน้อยว่าจะไม่แสดงธรรมเพื่อโปรดใครเลย |
ท่านผู้รจนาคัมภีร์เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าได้แต่งเรื่องสาธกให้เห็นเป็นปุคคลา |
ธิษฐานประกอบเข้าในตอนนี้ว่า พระดำริของพระพุทธเจ้าเรื่องนี้ได้ทราบไป |
ถึงท้าวสหัมบดีพรหมในเทวโลก ท้าวสหัมบดีพรหมจึงตกพระทัยเป็นอย่าง |
ยิ่ง ถึงกับทรงเปล่งศัพท์สำเนียงอันดังถึงสามครั้งว่า "โลกจะฉิบหายในครั้งนี้" |
ปฐมสมโพธิว่า "เสียงนั้นก็ดังแผ่ไปทั่วหมื่นโลกธาตุ ท้าวสหัมบดีพรหมจึง |
พร้อมด้วยเทวคณานิกรลงมากราบทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดง |
ธรรม" |
ตอนท้าวสหัมบดีพรหมลงมาทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรม |
โปรดชาวโลกนี้ กวีท่านแต่งอินทรวงศ์ฉันท์ภาษาบาลีไว้ว่า |
"พรหฺมา จ โลกาธิปตี สหมฺปติ |
กตฺอญฺชลี อนฺธิวรํ อยาจถ |
สนฺตีธ สตฺตาปฺปรชกฺขชาติกา |
เทเสตุ ธมฺมํ อนุกมฺปิมํ ปชํ" |
แปลว่า "ท้าวสหัมบดีพรหม ประณมกรกราบทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าผู้ทรง |
คุณอันประเสริฐว่า สัตว์ในโลกนี้ ที่มีกิเลสบางเบาพอที่จะฟังธรรมเข้าใจนั้น |
มีอยู่ ขอพระองค์ได้โปรดแสดงธรรมช่วยเหลือชาวโลกเทอญ" |
ต่อมาภาษาบาลีที่เป็นฉันท์บทนี้ ได้กลายเป็นคำสำหรับอาราธนาพระสงฆ์ |
ในเมืองไทยให้แสดงธรรมมาจนทุกวันนี้ |
Copyright © 2002 Mahidol
University All rights reserved. |