ทรงสำแดงยมกปาฏิหาริย์ข่มพวกเดียรถีย์
ที่ต้นมะม่วงคัณฑามพฤกษ์
ภาพที่เห็นนั้น เป็นตอนพระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ที่เมืองสาวัตถี |
แคว้นโกศล ในวันเพ็ญกลางเดือนแปดก่อนวันเข้าพรรษาหนึ่งวัน |
ปาฏิหาริย์ คือ การแสดงให้คนเห็นอัศจรรย์ ซึ่งสามัญชนหรือคนที่ไม่เคย |
เรียนรู้มาก่อนแสดงไม่ได้ มีตั้งแต่อย่างต่ำ เช่น เล่นกล หรือที่เรียกว่าแสดง |
ปาหี่ ขึ้นไปจึงถึงเดินบนน้ำ ดำดินลุยไฟ กลืนตะปู ที่พวกฤาษีแสดง ตลอดถึง |
การเหาะเหินเดินอากาศที่ผู้มีฤทธิ์แสดง ปุถุชนแสดงได้ พระอรหันต์ผู้ได้ |
ฌานได้ฤทธิ์ก็แสดงได้ |
ยมก แปลว่า คู่หรือสอง ยมกปาฏิหาริย์ คือ การแสดงคู่ น้ำคู่กับไฟ คือเวลา |
แสดง ท่อน้ำใหญ่พุ่งออกจากพระกายเบี้องบนของพระพุทธเจ้า เปลวไฟพุ่ง |
เป็นลำออกจากพระกายเบื้องล่างเป็นต้น |
ยมกปาฏิหาริย์แสดงได้แต่ผู้เดียว คือผู้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า ส่วนพระ |
อรหันต์สาวก และเดียรถีย์ฤาษีชีไพรแสดงได้แต่ปาฏิหาริย์ธรรมดา เช่น เดิน |
บนน้ำ ดำดินเป็นต้น |
สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ครั้งนี้ คือที่โคนต้นมะม่วง |
หรือคัณฑามพฤกษ์ในเมืองสาวัตถี มูลเหตุที่ทรงแสดงคือ เพราะพวกเดียรถีย์ |
นักบวชนอกศาสนาพุทธ ท้าพระพุทธเจ้าแข่ง แสดงปาฏิหาริย์ว่าใครจะเก่ง |
กว่ากัน พวกเดียรถีย์ทราบว่าพระพุทธเจ้าจะแสดงยมกปาฏิหารย์ที่โค้นต้น |
มะม่วง จึงให้สาวกและชาวบ้านที่นับถือพวกตน จัดการโค้นต้นมะม่วงเสีย |
สิ้นทราบว่าบ้านใครส่วนใครมีต้นมะม่วงก็ใช้อิทธิพลทางการเงินซื้อ แล้วโค่น |
ทำลายหมด แม้หน่อมะม่วงที่เกิดในวันนั้นก็ทำลายไม่เหลือ |
แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ที่โคนต้นมะม่วงจนได้ โดยมีผู้นำ |
ผลมะม่วงสุกมาถวายทรงฉันเสร็จแล้ว รับสั่งให้คนปลูกเมล็ดลงดิน แล้วพระ |
องค์ทรงใช้น้ำที่ล้างพระหัตถ์รด ปรากฏว่าหน่อมะม่วงโตพรวดพราด แตกกิ่ง |
ก้านสูงขึ้นถึง ๕๐ ศอก ผลที่สุดพวกเดียรถีย์พ่ายแพ้ไป |
เรื่องการแสดงยมกปาฏิหาริย์ เป็นเรื่องที่นักเขียนในศาสนาพุทธเขียนขึ้น |
เพื่อยกพระพุทธเจ้าข่มพวกเดียรถีย์ ต้องฟังอย่างนิยาย มองดูพระพุทธเจ้า |
อย่างในฐานะเป็นเทพเจ้า และอ่านเจตนาของคนเขียน จึงจะเข้าใจ |
Copyright © 2002 Mahidol
University All rights reserved. |