![]() |
ครั้งหนี่งเสด็จไปจำพรรษา ณ ป่าปาลิไลย
โดยมีช้างกับลิงเป็นพุทธอุปัฏฐาก
ภาพที่เห็นนี้เป็นภาพเหตุการณ์ตอนหนึ่งในพระประวัติของพระพุทธเจ้า เป็น |
ตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาในป่าโดยลำพังพระองค์ ไม่มีพระภิกษุ |
หรือใครอื่นตามเสด็จไปจำพรรษาอยู่ด้วยเลย ป่าที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำ |
พรรษาครั้งนี้เป็นป่าใหญ่ เป็นที่อยู่อาศัยของช้างโทนเชือกหนึ่ง ชื่อว่า 'ปาลิ |
ไลยกะ' หรือ 'ปาลิไลยก์' ป่าแห่งนี้จึงได้นามตามช้างนี้ว่า "ป่าปาลิไลยก์" คน |
ไทยเราเรียกว่า "ป่าปาเลไล" อันเดียกันนั่นเอง |
มูลเหตุที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาที่ป่าแห่งนี้ เพราะทรงรำคาราญพระ |
ภิกษุชาวเมืองโกสัมพีสองคณะพิพาทกันและแตกความสามัคคีกัน ถึงกับไม่ |
ยอมลงโบสถ์ร่วมกัน พระพุทธเจ้าทรงทราบเข้า ได้เสด็จมาทรงระงับให้ |
ปรองดองกัน แต่พระภิกษุทั้งสองคณะก็ไม่เชื่อฟัง พระพุทธเจ้าจึงเสด็จหนีไป |
จำพรรษาอยู่ในป่าดังกล่าว |
ด้วยอำนาจพุทธบารมีและพระเมตตาของพระพุทธเจ้า ช้างชื่อปาลิไลยก์ได้ |
เข้ามาอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า เช้าขึ้นหาผลไม้ในป่ามาถวาย ตอนเย็นต้มน้ำ |
ร้อนถวายพระพุทธเจ้าด้วยวิธีกลิ้งก้อนหินไปเผาไฟให้ร้อนลงในแอ่งน้ำ |
ลิงตัวหนึ่งเห็นช้างปรนนิบัติถวายพระพุทธเจ้า ก็ได้นำรวงผึ้งมาถวายพระเจ้า |
บ้าง พระพุทธเจ้าทรงรับแต่ไม่ทรงฉัน ลิงเข้าไปนำรวงผึ้งกลับมาพิจารณาดู |
เมื่อเห็นตัวอ่อนของผึ้ง จึงนำตัวอ่อนออกหมดแล้วนำน้ำผึ้งหวานเข้าไปถวาย |
ใหม่ คราวนี้พระพุทธเจ้าทรงรับแล้วฉัน ลิงแอบดูอยู่บนต้นไม้ เห็นพระพุทธ |
เจ้าทรงฉันรวงผึ้งของตน ก็ดีใจ กระโดดโลดเต้นบนกิ่งไม้ จนพลัดตกลงมา |
ถูกตอไม้แหลมเสียมท้องทะลุตาย |
เมื่อออกพรรษา พระภิกษุที่แตกกันเป็นสองฝ่ายยอมสามัคคีกัน เพราะชาว |
บ้านไม่ยอมทำบุญใส่บาตรให้ ได้ส่งผู้แทนไปกราบทูลพระพุทธเจ้าเสด็จ |
กลับเข้าเมือง ช้างปาลิไลยก์อาลัยพระพุทธเจ้านักหนา เดินตามพระพุทธเจ้า |
ออกจากป่า ทำท่าตามเข้าไปในเมืองด้วย พระพุทธเจ้าจึงทรงหันไปตรัสบอก |
ช้างว่า "ป่าลิไลยก์ ถิ่นของเธอหมดแค่นี้ แต่นี้ไปเป็นถิ่นที่อยู่ของมนุษย์ ซึ่ง |
เป็นภัยต่อสัตว์เดรัจฉานเช่นเธอ เธอไปด้วยไม่ได้หรอก |
ข้างปาลิไลยก์ยืนร้องไห้เสียใจไม่กล้าเดินตามพระพุทธเจ้า พอพระพุทธเจ้า |
ลับสายตาก็เลยอกแตกตายอยู่ ณ ที่นั้น คัมภีร์บอกว่าทั้งลิงและช้างตายแล้ว |
ไปเกิดเป็นเทพบุตรอยู่ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ |
Copyright © 2002 Mahidol
University All rights reserved. |