เช้าวันเพ็ญเดือน ๖ ทรงเสวยมังสะสุกรอ่อนที่บ้านนายจุนทะ
นับเป็นปัจฉิมบิณฑบาต

พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์บริวาร ได้เสด็จออกจากเขตแขวงเมืองไพศาลี
ไปโดยลำดับ เพื่อเสด็จไปยังเมืองกุสินารา สถานที่ทรงกำหนดว่าจะ
นิพพานเป็นแห่งสุดท้าย จนไปถึงเมืองปาวาใน วันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ ซึ่ง
เป็นวันก่อนเสด็จนิพพานเพียงหนึ่งวัน

เสด็จเข้าไปประทับอาศัยที่สวนมะม่วงของนายจุนทะกัมมารบุตร นายจุนทะ
เป็นลูกนายช่างทองได้ทราบข่าวว่า พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์บริวาร
เสด็จมาพักอยู่สวนมะม่วงของตน ก็ออกไปเฝ้าและฟังธรรม ฟังจบแล้ว นาย
จุนทะกราบทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์เสด็จไปรับ
ภัตตาหารที่บ้านของตนในวันนี้มีชื่อว่า 'สูกรมัททวะ'

คัมภีร์ศาสนาพุทธชั้นอรรถกถาและมติของเกจิอาจารย์ทั้งหลายยังไม่ลงรอย
กันว่า 'สูกรมัททวะ' นั้นคืออะไรแน่ บางมติว่าได้แก่สุกรอ่อน (แปลตามตัว
สูกร-สุกร หรือหมู มัททวะ-อ่อน) บางมติว่าได้แก่ เห็ดชนิดหนึ่ง และบางมติว่า
ได้แก่ อาหารเทพเจ้า เป็นต้น เป็นอาหารประณีตชั้นหนึ่งยิ่งกว่าข้าว
มธุปายาส

พระพุทธเจ้าตรัสบอกนายจุนทะให้จัดถวายสูกรมัททวะนั้นถวายแต่เฉพาะ
พระองค์ ส่วนอาหารอย่างอื่นให้จัดถวายพระสงฆ์ และเมื่อพระพุทธเจ้าทรง
ฉันเสร็จแล้ว รับสั่งให้นายจุนทะนำเอาสูกรมัททวะที่เหลือจากที่พระองค์ทรง
ฉันแล้ว ไปฝังเสียที่บ่อ เพราะคนอื่นนอกจากพระองค์ฉันแล้ว ร่างกายไม่อาจ
จะทำให้อาหารนั้นย่อยได้ เสร็จแล้วพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมให้นายจุนทะ
ฟังเป็นที่ชื่นชม และรื่นเริงในกุศลบุญจริยาของตน แล้วทรงอำลานายจุนทะ
เสด็จต่อไปยังเมืองกุสินาราต่อไป

Copyright © 2002 Mahidol University All rights reserved.
Mahidol University Computing Center, Rama VI Road, Rajathewi, Bangkok 10400, THAILAND Tel. (662) 354-4333