![]() |
พระอานนท์ไปยืนเหนี่ยวสลักเพชรพระวิหาร
ร้องไห้รำพันถึงพระพุทธองค์
พระอานนท์เป็นพระภิกษุอุปัฏฐากของพระพุทธเจ้า ก่อนท่านรับตำแหน่งนี้ |
เคยมีพระภิกษุหลายรูปทำหน้าที่นี้มาก่อน แต่ท่านเหล่านั้นรับหน้าที่ดัง |
กล่าวไม่นาน ก็กราบทูลลาพระพุทธเจ้าออกไป ผู้รับหน้าที่อุปัฏฐากพระ |
พุทธเจ้าเป็นเวลานานที่สุดจนพระพุทธเจ้านิพพานจึงได้แก่พระอานนท์ |
โดยความสัมพันธ์ทางพระญาติ พระอานนท์มีศักดิ์เป็นพระอนุชาหรือน้อง |
ชายพระพุทธเจ้าเพราะบิดาของท่านเป็นน้องชายบิดาของพระพุทธเจ้า นี่ว่า |
อย่างสามัญ |
ตลอดเวลาที่รับหน้าที่อุปัฏฐากพระพุทธเจ้า พระอานนท์ ตามเสด็จพระพุทธ |
เจ้าไปทุกหนทุกแห่งคอยปรนนิบัติอุปัฏฐากพระพุทธเจ้ามิได้บกพร่อง ด้วย |
เหตุดังกล่าวท่านจึงไม่มีเวลาบำเพ็ญกิจส่วนตัว พรรคพวกรุ่นเดียวกันที่ออก |
บวชพร้อมกัน (ยกเวันพระเทวทัต) ต่างได้สำเร็จพระอรหันต์กันทั้งสิ้น ส่วน |
พระอานนท์ได้สำเร็จมรรคผลเพียงชั้นโสดาเท่านั้น |
เมื่อพระพุทธเจ้าจวนจะนิพพาน ท่านจึงมีภาระเพิ่มมากขึ้น เหนื่อยทั้งกาย |
และใจ ใจท่านว้าวุ่นไม่เป็นส่ำ พอได้ยินพระพุทธเจ้าบอกพระสงฆ์เกี่ยวกับ |
เรื่องพระองค์จะนิพพาน พระอานนท์ไม่อาจจะอดกลั้นความเสียใจและ |
อาลัยพระพุทธเจ้าไว้ได้ ท่านจึงหลบหลีกออกจากที่เฝ้า เข้าไปยังวิหารแห่ง |
หนึ่ง ไปยืนอยู่ข้างบานประตูวิหาร มือเหนี่ยวสลักเพชรหรือลิ่มสลักกลอน |
ประตูแล้วร้องไห้โฮๆ พลางรำพันว่าตัวเรา ยังเป็นอริยบุคคลชั้นต่ำ ยังไม่ |
สำเร็จอรหันต์ พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นพระศาสดาและพระเชษฐาของเราก็จัก |
มานิพพานจากเราไปก่อนเสียแล้ว |
พระพุทธเจ้าทรงเห็นพระอานนท์หายไปจากที่เฝ้า จึงตรัสถามพระสงฆ์ถึง |
พระอานนท์ ทรงทราบแล้วรับสั่งให้ท่านเข้าเฝ้า แล้วตรัสพระธรรมเทศนา |
เตือนสติพระอานนท์ว่าอย่าได้เศร้าโศกเสียใจ |
ตอนหนึ่งพระพุทธเจ้าตรัสบอกพระอานนท์ว่า ท่านเป็นคนมีบุญ อย่าได้ |
ประมาท เมื่อพระองค์นิพพานแล้วไม่ช้า ท่านจักได้สำเร็จอรหันต์ (พระ |
อานนท์ได้สำเร็จอรหันต์ภายหลังพระพุทธเจ้านิพพานแล้วสามเดือน) |
Copyright © 2002 Mahidol
University All rights reserved. |