Page 28 - MU_7july66
P. 28

28                                           มหิดลสาร ๒๕๖๖                                         July 2023



                                                                                                                                                        ิ
                                                                                                                                   โคร้งการ้บร้หิาร้จีัดการ้ขยีะหิอพัก ต้นแบบ Zero Waste
           ม.มหิิดล-ICL ส์หิร้าชอาณาจีักร้ ‘ติดกร้ะจีกส์�องโร้ค NCDs’
                                                                                                                                                          ้
                                                                                                                                                    ส์้�เป่าหิมายี  “Net Zero Emission”
                              ติดตามจากการื่เจรื่ิญเติบโตข้องเด็ก





                                                                                                       ิ
                                                                                                          ์
                                                                                   สััมภาษณ แลัะเขียนข่าวโดย ฐิตรัตน เดช่พรหิม
                                                                                         ์
                                                                                                           ้
                                                                                                  ภาพจิากผู่้ใหิสััมภาษณ ์
                                              ั
                                                      ำ
                                 ั
                                      ้
                          ี
                      ในรอบ ๓ ทุศวรรษทุ�ผ่่านมา ทุ�วโลักตองปัระสับกบปััญหิาจิานวน
                                             �
                                                   ้
                   ่
                                             ื
                                          ่
         ู
                       �
                                    ้
                 ิ
        ผ่้ปั่วยโรคตดตอไม่เรือรัง (NCDs) สัูงข�นอย่างตอเนอง จินตองสัูญเสัีย
                                               ำ
                  ื
        ทุรัพยากรเพ�อการดูแลั แลัะรักษาพยาบาลัเปั็นจิานวนมหิาศาลั
                                    ั
                        ำ
                          ั
                       ์
                             ี
                                       ั
                                      ิ
                                                       ้
                                                   ู
        แลัะกลัายเปั็นโจิทุยสัาคญทุ�ทุ้าทุายนกวจิยจิากทุ�วโลัก สัการคนหิา
                                                   ่
                                             ั
        หินทุางเยียวยาปััญหิาทุี�คอยคุกคามปัระช่ากรโลักดงกลัาว
                                                ั
                                                   ่
               ศิาสิ่ตรื่าจารื่ย์  ดรื่.  นายแพทยว่ชี้ย  เอกพลากรื่  อาจิารย์
                                     ์
                                        ั
                       ำ
                  ั
        แพทุยนกวิจิยปัระจิาภาควช่าเวช่ศาสัตร์ช่มช่น คณะแพทุยศาสัตร์
              ั
                             ิ
             ์
                                        ุ
                                                    ่
                                    ั
                          ี
                                                 ั
                               ิ
        โรงพยาบาลัรามาธิบด มหิาวทุยาลัยมหิดลั ไดร่วมกบอมพีเรื่ียล
                                       ิ
                                             ้
        คอลเลจลอนดอน  (Imperial  College  London  -  ICL)  และ
                ั
         ั
                      ่
                                                       ่
                                       ่
             ั
        นกว่จยท�วโลกเกอบ  ๒๐๐  ปรื่ะเทศิ  ตดตามการื่เจรื่่ญเตบโต
                          ั
                    ้
                                           ั
                                         ุ
        ในเรื่่องความสิ่งและดชี้นมวลกายของกลมตวอย่างเดกวัยเรื่ียน
                                                   ็
                                         ่
            �
                            ี
                    ุ
                                                        ้
                                        ำ
                                       ี
              ุ
        -  วัยรื่่น  อายปรื่ะมาณ  ๕  –  ๑๙  ปจานวนกว่า  ๗๐  ลาน
                                                   ี
                 ่
                    �
                                                ็
                                  ็
                                ้
                                            ้
        คนอย่างตอเนองที�แสิ่ดงใหเหนว่า  แนวโนมเดกท�อาศิัยอย ้ ่
                    ่
                              �
        ในเม่องมีการื่เจรื่่ญเตบโตทีดกว่าในเดกในชี้นบทเรื่่�มลดนอยลง
                               ี
                                       ็
                         ่
                                                      ้
           น� นคอเด กมีความสิ่งและอ วนในเมองและชี้นบท
                                             ่
                              ้
               ่
                   ็
                                     ้
            ั
                                                                          ศาสตรื่าจารื่ย์์ ดรื่. นาย์แพทย์์วิิชย์ เอกพลากรื่
                                                                                               ั
                 ั
                                              ่
                           ั
                                              ้
             ี
           ้
                                  ่
                    ่
        ใกลเคยงกน เนองจากลกษณะชี้ีวตความเป็นอยและสิ่�งแวดลอม              อาจิารย์แพทุยนกวจิยปัระจิาภาควช่าเวช่ศาสัตร์ช่มช่น
                                                        ้
                    �
                                                  ่
                                                                                     ั
                                                                                   ั
                                                                                    ิ
                                                                                                     ุ
                                                                                             ิ
                                                                                         ำ
                                                                                  ์
                                                                                                  ิ
                                                                                              ี
                                                                                                        ิ
                                                                                                     ั
                                                                        คณะแพทุยศาสัตร์โรงพยาบาลัรามาธิบด มหิาวทุยาลัยมหิดลั
                                        ้
        ตางๆ ของคนในเม่อง และชี้นบทเรื่่�มใกลเคยงกน
         ่
                                          ี
                                              ั
                                        ี
                          ็
                   ิ
            จิากการตดตามเกบข้อมูลัระหิว่างปั พ.ศ. ๒๕๓๓ – ๒๕๖๓
                                                    ็
                                                  ้
        แสัดงผ่ลั ซี้�งเปัรียบเสัมือนการ “ตดกรื่ะจก” สัะทุ้อนใหิเหินปััญหิา
                                  ่
                                                                                              ์
                                                                       โดย ศิาสิ่ตรื่าจารื่ย์ ดรื่. นายแพทยว่ชี้ัย เอกพลากรื่ มองว่า
                           ็
                             ั
                                                ้
                                                    ั
                  ิ
        การเจิริญเตบโตของเดกทุ�วโลักว่า มีความสัอดคลัองกบรายได ้
                                                                                  ั
                                                                                                            ำ
                                                               การสั่งเสัริมการออกกาลังกาย แลัะการสั่งเสัริมโภช่นาการสัาหิรับ
                                                                                ำ
                                    ี
        ของปัระช่ากร  โดยใน  “ปรื่ะเทศิท�มรื่ายไดตา”  มักพบปััญหิา
                                             ำ
                                           ้
                                     ี
                                                                                                  ี
                                                                 ็
                                                                                       �
                                                                                          ำ
                                                                                                ้
                                                               เดกไทุยในวัยเรียนยังคงเปั็นเรืองจิาเปั็น ซี�งทุ�ผ่่านมาพบเดกไทุย
                                                                                                            ็
              �
                                        ้
                                          ้
                                   ี
                                  �
              ี
                                                  ุ
                                                     ั
                                                   ำ
           ็
                                  ี
        “เดกเตย” มากกว่า “ปรื่ะเทศิทมรื่ายไดสิ่ง” สัาเหิตสัาคญจิาก
                                                                  ั
                                                               ในวยเรียนมการออกกาลังกาย แลัะบริโภค “นม” ซีงเปันแหิลังสัาคญ
                                                                        ี
                                                                                 ั
                                                                               ำ
                                                                                                           ่
                                                                                                    �
                                                                                                    ้
                                                                                                      ็
                                                                                                             ำ
                                                                                                               ั
                                        ่
        “การื่เข้าถ่งคุณภาพของอาหารื่” ซี�งแตกตางกนไปัตามเศรษฐานะ
                ่
                                   ้
                                           ั
                                                                      ี
                                                                                 ี
                                                                                             ่
                                                                                                        ิ
                                                               ของโปัรตนในปัริมาณทุ�ยังไม่เพียงพอตอการเจิริญเตบโตตามวัย
              ่
        ของแตลัะครอบครัว
                                                                          ี
                                                                          �
                                                                              ำ
                                                                                                     ั
                                                                                                        ้
                                                                       นอกจิากนการดาเนนนโยบายของรัฐในการขจิดตนตอปััญหิา
                                                                                 ิ
                    ื
            ในขณะทุ�เม�อศกษาเปัรียบเทุียบระหิว่างในเมืองแลัะในช่นบทุ
                  ี
                       ้
                                                               กอโรค NCDs จิากการเฝ่้าตดตามการเจิริญเตบโตของเดกไทุย
                                                                                                            ็
                                                                ่
                                                                                     ิ
                                                                                                    ิ
                                 ้
        พบว่า  “เดกในเมอง”  มีแนวโนมอยใน  “ภาวะอวน”  มากกว่า
                      ่
                 ็
                                     ่
                                               ้
                                     ู
                                                                                     ื
                                                                            ้
                                                                                  ่
                                                                                     �
                                                                   ำ
                                                               ควรทุาอย่างทุั�วถงแลัะตอเนองเพื�อลัดช่่องว่างในระดบช่มช่น
                                                                                                        ั
                                                                                                          ุ
                        �
                                                     ื
                                      ่
           ็
                        ื
                                              ิ
                                                         ิ
        “เดกในชี้นบท”  เนองจิากสั่วนใหิญมักมีพฤตกรรมเนอยน�ง
                                                       ำ
                                  ุ
                       ั
                                                         ั
                    ำ
                                              ู
                                         ้
                                                    �
                                                    ี
                                              ่
        ขาดการออกกาลังกาย  สัาเหิตเพราะตองอยในพนทุทุจิากด
                                                 �
                                                 ื
                                                     ี
                                                     �
        รวมทุั�งตองใช่ช่วิตดวยความเร่งรีบ
                   ้
               ้
                    ี
                       ้
                                     ิ
             ั
                                             ั
                            ่
                  �
                            ู
                  ี
                    ทุ�งหิมดนมีรายงานอยในวารสัารวช่าการระดบ Top1% ของโลัก
                   ำ
                                               ุ
                                      ั
                                          ่
                                          ู
                                               ่
                                    ้
        “Nature”  สัาหิรับปัระเทุศไทุย  ซี�งจิดอยในกลัม  “ปรื่ะเทศิท � ี
               ้
                                      ั
                                             ็
                                                         ้
        มรื่ายไดปานกลาง”  แมพบวาในปัจิจิบนเดกไทุยสังมากขน
                                         ั
                                 ่
                                        ุ
                             ้
         ี
                                                         �
                                                   ู
                                                     �
                                                      ่
        จิากนโยบายสังเสัริมโภช่นาการในเดกวยเรียนของช่าตทุผ่านมา
                                     ็
                                                   ิ
                                       ั
                                                     ี
                   ่
        อยางตอเนอง แตกยงพบความเสัยงตอการม “ภาวะอวน” ซี�งเปัน
                 �
                                  �
                      ่
          ่
                                                  ้
                                                         ็
                                                      ้
                                     ่
                        ั
                       ็
                                           ี
                 ื
                                  ี
              ่
                                                      ิ
                                     ิ
              ำ
        สัาเหิตสัาคญของการเกดโรค NCDs เพ�มมากข�น จิากการดาเนนช่วิต
                          ิ
                                                   ำ
                                          ้
             ุ
                ั
                                                        ี
                                            �
                                  ี
        ทุยัง “ขาดความรื่้ความเข้าใจ” ทุ�เพียงพอในเรืองโภช่นาการ แลัะ
         ี
                      ้
         �
        พ้�งพาเทุคโนโลัยีตามกระแสัโลักจินขาดการเคลัอนไหิวทุางกาย
                                             �
                                             ื
   Internationalization
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33